ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศฯ จับอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจ.ภูเก็ต ยักยอกเงินลูกค้ากว่า 1 แสนบาท ไปเล่นพนันออนไลน์ เผยเลือกเหยื่อที่เป็นคนแก่ เตรียมขยายผลเพิ่ม

เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้อำนวยการของ นำโดย พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ หนุมาศ รอง ผกก.สืบสวนฯ กองกำกับสืบสวน 4 นำกำลังร่วมกันทำการจับกุมตัว    นายปรินทร์ หรือบอล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 244/2563 ลง 24 ส.ค.63 ซึ่งกระทำความผิดฐาน 1.ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, 2.เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,     3.เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน,  และ 4.โดยมิชอบ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค  จำนวน  1 เครื่อง,    โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3  เครื่อง, เราท์เตอร์อินเตอร์เน็ตไวไฟ จำนวน 1 เครื่องและ อุปกรณ์ฮาร์ดดิส จำนวน 1 อัน โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งบริเวณ ถ.เจ้าฟ้า ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.ฐาปกรณ์ หนุมาศ เปิดเผยว่า  นายปรินทร์ฯ เป็นอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจ.ภูเก็ต เพิ่งลาออกมาไม่ถึงหนึ่งเดือน  มีพฤติการณ์ในการก่อเหตุ โดยนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ไปทำการสมัคร เปิดใช้ Netbabk จากนั้นได้โอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหายไปเล่นพนันออนไลน์จนหมดกว่า 1แสนบาท  เบื้องต้นพบการกระทำความผิด  1 ราย ซึ่งผู้เสียหายมีอาชีพเลี้ยงหมูอายุประมาณ 60  ปี เมื่อสืบทราบว่าคนร้ายเป็นใครจึงเข้าทำการจับกุม และ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์ในการก่อเหตุคนร้าย อาศัยช่องโหว่ของผู้เสียหายที่ได้เปิดบัญชีธนาคารไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการสมัคร Netbank ของธนาคาร  โดยจะลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย อาทิ บัญชีธนาคาร, บัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น  ไปทำการสมัครระบบ Netbank จึงทำให้คนร้ายสามารถโอนเงินออกจากบัญชีผู้เสียหายได้ด้วยตนเอง โดยผู้เสียหายไม่ทันรู้ตัวว่าเงินในบัญชีได้ถูกลักลอบโอนออกไป จากนั้นได้นำเงินจากบัญชีผู้เสียหายไปซื้อสินค้าจากผู้ให้บริการประเภท Digital Content เพื่ออำพรางให้ยากต่อการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยจากการตรวจสอบ พบได้ก่อเหตุกระทำซ้ำกันมากกว่า 14 ครั้ง การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศปอส.ตร.(PCT), กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8  และหน่วยงานตรวจสอบการฉ้อโกง (fraud) ของธนาคาร ดำเนินการตรวจสอบพบความผิดปกติของบัญชีผู้เสียหายและได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายพร้อมของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด อย่างไรก็ตามขอฝากเรียนพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง,ข้อมูลทางการเงิน ให้กับบุคคลอื่น และมีการตรวจสอบดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอยู่สม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นช่องโหว่ของคนร้ายนำไปใช้ในการกระทำความผิด และขอประชาสัมพันธ์แก่ผู้เสียหายรายอื่นๆ ว่าหากท่านถูกประทุษร้ายต่อทรัพย์สินหรือข้อมูลส่วนบุคคลใดๆผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถเข้าติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร1 ชั้น1 สายด่วน1599 หรือ 1155

You may also like...