สถานธนานุบาลปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชำระหนี้ พร้อมสำรองเงิน 100 ล้านบาท

นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพของประชาชนและเศรษฐกิจโดยรวม ประกอบกับอยู่ระหว่างการเปิดโรงเรียน สถานธนานุบาล เทศบาลนครภูเก็ต จึงได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของประชาชน โดยการปรับลดดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาในการรับจำนำ พร้อมสำรองเงิน 100 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2563 แบ่งอัตราดอกเบี้ยออกเป็น 2 ช่วง คือ เงินต้นไม่เกิน 5,000.- บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.125 ต่อเดือน, เงินต้นเกินกว่า 5,000.- บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อเดือน ซึ่งการคิดอัตราดอกเบี้ย เป็นไปตามมติคณะกรรมการจัดการสถานธนานุบาล ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าภาคเอกชน นอกจากนี้ผู้จำนำยังสามารถผ่อนชำระเงินต้นที่จำนำได้ โดยทางสถานธนานุบาล เทศบาลนครภูเก็ต ไม่จำกัดวงเงินผ่อนชำระ และขยายเวลาไถ่ถอนทรัพย์จำนำจาก 4 เดือน 30 วัน เป็น 8 เดือน โดยในปี 2563 สถานธนานุบาล ให้บริการแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเวลาดังกล่าว อยู่ที่ 45 ล้านบาท สำหรับทรัพย์สินที่รับจำนำประกอบด้วย ทองคำรูปพรรณ เพชร พลอย นาก เงินรูปพรรณ นาฬิกา วิทยุเทป โทรศัพท์ เครื่องซักผ้า เครื่องเสียง โทรทัศน์ ตู้เย็น กล้องถ่ายรูป เครื่องมือไฟฟ้า และทรัพย์สินเบ็ดเตล็ด เช่น เครื่องดนตรี จักรเย็บผ้า เป็นต้น สำหรับในช่วงเดือน มกราคม – 11มิถุนายนที่ผ่านมา มีประชาชนมาใช้บริการแล้วทั้งสิ้น 11,506 ราย คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินที่รับจำนำไว้เป็นเงิน 219,407,200.-บาท โดยทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำไว้มากที่สุดคือ ทองคำรูปพรรณ ร้อยละ 99 รองลงมาคือประเภทนาฬิกา กล้องถ่ายรูป เครื่องมือช่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินในระยะสั้น สามารถนำทรัพย์สินมาฝากไว้กับสถานธนานุบาลเทศบาลนครภูเก็ตได้ เปิดบริการทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 –16.00 น.

You may also like...