จังหวัดภูเก็ตร่วมกับวัดเจริญสมณกิจจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี ชาตกาลพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบ 150 ปีชาตกาลพระอาจารย์มั่นภูมิทัตโต เนื่องในโอกาสได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลกสาขาสันติภาพประจำวาระปี พ.ศ. 2563 – 2564 ภายใต้โครงการลานธรรม ลานวิถีไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยมีส่วนราชการต่าง ๆ และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ตได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี ชาตกาลพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เนื่องในโอกาสได้รับการยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลกสาขาสันติภาพ ประจำวาระปี พ.ศ. 2563-2564 ภายใต้โครงการลานธรรม ลานวิถีไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เดิมชื่อ เด็กชาย มั่น แก่นแก้ว บิดามารดาชื่อ นายคําด้วง นางจันทร์ แก่นแก้ว เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 20 เดือนมกราคม พ.ศ. 2413 ตรงกับวันแรม 4 ค่ํา เดือนยี่ ปีมะเมีย ณ บ้านคําบง ตําบลโขงเจียม อําเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดศรีทอง อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ฉายาว่า “ภูริทตฺโต” หลังอุปสมบทท่านได้ศึกษาในฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน (ธรรมยุต) กับพระอาจารย์ เสาร์ กนตสีโล ณ วัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี หลังจากนั้นท่านได้เข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดปทุมวนาราม และได้ศึกษาอบรมกับท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนุโท) วัดบรมนิวาส ภายหลังท่านได้ออกฝึกปฏิบัติ “ธุดงคกรรมฐาน” ด้วยตนเองตามลําพัง โดยธุดงค์ ไปตามสถานที่ที่เป็นป่าเขา ถ้ำเงื้อมผา ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน บางครั้งท่านก็ธุดงค์ไปยังประเทศ พม่า ลาว เมืองหลวงพระบาง เป็นต้น ซึ่งในระหว่างธุดงค์ไปนั้น ก็มีคณะศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใส ในข้อวัตรปฏิบัติขององค์ท่านได้ติดตามไปแบบห่าง ๆ ด้วย จนต่อมาพระสงฆ์เหล่านั้น ได้เจริญงอกงามในธรรมจนกลายเป็นพระมหาเถระองค์สําคัญ ๆ ในเมืองไทย ในช่วงระยะ 5 ปี ที่ย่างเข้าวัยชรา จึงได้พํานักเป็นหลักแหล่ง ณ วัดป่าภูริทัตตถิราวาส หรือวัดป่าบ้านหนองผือ อําเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ซึ่งช่วงนั้นท่านได้สั่งสอนอบรมศิษยานุศิษย์เป็นจํานวนมาก ชื่อเสียงร่ำลือไปทั่ว มีประชาชนนับถือทั่วประเทศ จนกระทั่งท่านอาพาธหนักเมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 และมรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2492 เวลา 02.23 น. และคณะศิษย์ได้ร่วมจัดงานประชุมเพลิงท่าน ณ วัดป่าสุทธาวาส อําเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 30 เดือนมกราคม พ.ศ. 2493 สิริรวมอายุได้ 80 ปี

หลักคําสอนของท่านได้ชี้แนะวิธีบําบัดทุกข์ด้วยการลดละความโลภ ความโกรธ และ ความหลงออกจากใจตน ดําเนินอุบายโกศลให้มหาชนเข้าถึงความสงบด้วยการเจริญสมาธิ เป็นบาทฐานแห่งสติชอบอันประกอบด้วยปัญญา ครองจริยาอยู่ในระเบียบวินัย ส่งผลให้มนุษยชาติ ทุเลาการวิวาทบาดหมาง มุ่งบําเพ็ญเพียรเพื่อหนทางทุเลาความเร่าร้อนแห่งกิเลส เป็นเหตุ ให้ผู้คนหันมาสนใจศึกษาแนวทางที่ท่านได้ดําเนินนำ และศาสนธรรมอันท่านได้จุดประกาย แห่งปัญญาไว้ แผ่ขยายความสว่างไสวออกไปสู่สังคมโลก จนปรากฏผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
ที่ประชุมใหญ่สมัยสามัญองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ครั้งที่ 40 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ได้มีมติประกาศยกย่อง พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นบุคคลสําคัญของโลก สาขาสันติภาพ โดยมีมติรับรองการร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 150 ปีชาตกาล วันที่ 20 มกราคม 2563