เหตุอาคารทับคนงานตาย7บาดเจ็บ2พบก่อสร้างผิดกฎหมายเร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี

ภูเก็ตสรุปเหตุอาคารทับคนงานตาย7บาดเจ็บ2พบก่อสร้างผิดกฎหมายเร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี ขณะประกันสังคมเตรียมเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละกว่า 7 แสนกว่าบาท.

    กรณีเหตุพื้นอาคารชั้น 2 การก่อสร้างอาคารสำนักงานของปั้มน้ำมัน ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ที่พังทลายทับคนงาน 9 ราย เป็นคนงานไทย 5 ราย และคนงานชาวเมียนมา 4 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายจตุรวิทย์ หมวดสิงห์ อายุ 34 ปี และ นางเมียว เมียวยี อายุ 26 ปี ทั้งสองได้รับบาดเจ็บที่กระดูกเชิงกราน ซึ่งขณะนี้พักรักษาอาการที่โรงพยาบาลถลาง
     ส่วนคนงานที่ติดใต้ซากอาคาร 7 ราย เจ้าหน้าที่ได้ขุดเจาะพื้นปูนจนสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตที่ติดใต้ซากอาคารออกมาได้ครบทั้ง 7 ราย แล้ว โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ทราบชื่อ คือ นายธวีรัตน์ เดชพันธ์ นางสาวพรพิมล แวววงศ์ ซึ่งทั้ง 2 เป็นช่างไฟฟ้า นายจีระชัย วงศ์หาจักร นายกฤษณะ ขันบุตร  นาย เน เมียว วิน นางเค ธี เคียง และนาย ซา อัง อัง ชาวเมียนมาร์ ซึ่งร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย เจ้าหน้าที่ได้ส่งพิสูจน์ยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ก่อนมอบให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
           นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากเสาอาคารที่ทนรับน้ำหนักของพื้นอาคารไม่ไหวจึงพังทลายทับคนงานดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะเร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปและพบว่าการก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาตซึ่งต้องดำเนินการตามกฏหมาย

         ด้านนายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าการก่อสร้างนั้นไม่ได้มาตรฐาน และไม่ได้ขออนุญาต การก่อสร้างอาคาร ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร จากเทศบาลแต่อย่างใด ซึ่งทางเทศบาลได้มีการสั่งระงับการก่อสร้างไปเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่เจ้าของอาคารยังคงฝ่าฝืนจนเป็นเหตุดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ฝากเตือนผู้ประกอบการที่จะก่อสร้างอาคารทั้งหลายต้องขออนุญาตให้ถูกต้องและให้มีช่างวิศวะรับรองแบบที่ถูกต้องเพื่อไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้ เบื้องต้นสถานที่ดังกล่าวได้ประสานติดต่อเพื่อที่จะก่อสร้างปั๊มน้ำมัน แต่ไม่มีการยื่นขอใบอนุญาตตนมาทราบภายหลังว่ามีการก่อสร้างแล้วจึงได้ออกคำสั่งระงับการก่อสร้างไป หลังจากนี้จะมอบหมายให้นิติกรของเทศบาลฯรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมาย

         ส่วนการดำเนินคดีกับเจ้าของอาคารนั้น พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.ถลาง เปิดเผยว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นจะดำเนินคดีกับเจ้าจองอาคารใน 2 ข้อกล่าวหาคือ กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส และดำเนิน คดี ความผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เนื่องจากอาคารดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตจากเทศบาลตำบลศรีสุนทร โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปบางส่วนแล้ว ขณะเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุยังไม่พบตัวซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอยู่หากไม่พบตจะออกหมายเรียกและหมายจับตามขั้นตอนต่อไป
                ขณะที่นายวรรณรัตน์ ศรีสุกใส ผู้อำนวยการกองตรวจความปลอดภัยแรงงาน กระทรวงแรงงานฯ ในฐานะเลขานุการคณะทำงานการเกิดอุบัติภัยหรือประสบอันตรายจากการทำงานกรณีร้ายแรงกระทรวงแรงงานฯ นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอนันต์ บวรเนาวรักษ์ ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงานพร้อมผู้เกี่ยวข้องลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมหลักฐานเพื่อนำไปใช้ประกอบในการเร่งดำเนินการชดเชยค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
               นายวรรณรัตน์ ศรีสุกใส ผู้อำนวยการกองตรวจความปลอดภัยแรงงาน กระทรวงแรงงานฯ ในฐานะเลขานุการคณะทำงานการเกิดอุบัติภัยหรือประสบอันตรายจากการทำงานกรณีร้ายแรงกระทรวงแรงงานฯ เปิดเผยถึงการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ขณะนี้ทางประกันสังคมจังหวัดภูเก็ตกำลังเร่งตรวจสอบสิทธิต่างๆเกี่ยวกับการเยียวยาอยู่ ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีนายจ้างประมาณ 3 รายโดยจะเรียกนายจ้างเข้ามาสอบสวนตามระเบียบเพื่อดำเนินการชดเชยเยียวยาให้กับผู้เสียหายตามสิทธิประกันสังคมผู้เสียชีวิตแต่ละรายจะได้เงินชดเชยรายละ 7 แสนกว่าบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจะมีการดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลและชดเชยในส่วนของการหยุดงาน
  ด้าน นางมารศรี ใจรังสี ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต  กล่าวว่า หลังจากเรียกนายจ้างเข้ามาสอบสวนแล้วหากพบไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานก็จะเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายและให้มีการชดใช้จ่ายเงินประกันสังคมย้อนหลังให้กับลูกจ้าง ยืนยันว่าผู้ที่ประสบเหตุเสียชีวิตทั้ง 7 รายและบาดเจ็บอีก 2 รายนั้นจะได้รับเงินชดเชยเยียวยาจากประกันสังคมแน่นอน.